ศาล จำคุก ป้าเป้า 1 ปี กรณีชุมนุมม็อบ 11 สิงหา

ศาล จำคุก ป้าเป้า 1 ปี กรณีชุมนุมม็อบ 11 สิงหา

ศาลสั่ง จำคุก ป้าเป้า พร้อมพวกเป็นระยะเวลา 1 ปี กรณีชุมนุมม็อบ 11 สิงหา รอลงอาญาสามปี อยากให้กลับไปคิดทบทวนดีๆ ป้าเป้า หรือ นางวรวรรณ แซ่อั้ง อายุ 67 ปี พร้อมกับพวกรวม 7 คน ได้เดินทางมายังศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ตามการนัดจากศาลจากกรณี ม็อบ 11 สิงหา ไล่ล่าทรราช หมายเลขดำ อ.2693/2564 ที่พนักงานอัยการ สำนักงานคดีอาญา 3 เป็นโจทก์ฟ้อง

ภายใต้ข้อหา ร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย 

ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายฯ โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธฯ,ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯโดยมีหรือใช้อาวุธและโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป,ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมกลุ่มของบุคคลที่มีจำนวนรวมกันมากกว่าห้าคนฯ,ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด 19

ในวันนี้ป้าเป้าและพวกได้เดินทางมาตามหมายหนัด เว้นจำเลยที่ 5 หรือ นายวีรวัฒน์ คำภีร์ทูล ที่หนีประกัน ซึ่ง ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า จำเลยทั้งหมดได้ร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมของบุคคลตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19

จึงเป็นการกระทำผิดกฎหมาย มีความผิดตามประกาศการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 เรื่อง ห้ามการชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคไวรัสโคโรนา 2019 ฉบับที่ 9 และ 30 ส่วน ข้อหาความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้าย ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายฯ โดยผู้กระทำความผิดคนหนึ่งคนใดมีอาวุธฯ,ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายฯโดยมีหรือใช้อาวุธและโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปให้ยกฟ้อง

พิพากษาว่า จำเลยมีความผิดฐานร่วมกันชุมนุมหรือทำกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโรคโควิด-19 ลงโทษจำคุกคนละ 1 ปี ปรับคนละ 20,000 บาท แต่ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อนอีกทั้งประกอบอาชีพและมีภาระต้องเลี้ยงดูแลครอบครัว บางคนกำลังศึกษาอยู่

จึงอยากให้เอาเป็นบทเรียนและทบทวนตัวเอง โทษจำคุกจึงให้รอลงอาญาไว้ 3 ปี และคุมความประพฤติ 2 ปี โดยให้รายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติจำนวน 8 ครั้งภายในระยะเวลาที่กำหนด และทำงานบริการสังคมเป็นเวลา 24 ชั่วโมง

‘ศักดิ์สยาม’ เร่งสอบเหตุ สะพานพระราม 2 ถล่ม รู้ผล 14 วัน

ศักดิ์สยาม ชิดชอบ สั่งเร่งสอบกรณี สะพานพระราม 2 ถล่ม เชื่อรู้ผลใน 14 วัน ยังไม่ตอบว่าเกิดจากความประมาทหรือไม่ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม ได้ให้สัมภาษณ์กรณี สะพานพระราม 2 ถล่ม บริเวณ หน้าโรงพยาบาลวิภาราม จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงดึกของวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย และเสียชีวิต 2 ศพ

นายศักดิ์สยาม กล่าวว่า กรมทางหลวงจะดำเนินการดูแลเต็มที่ และมอบนโยบายไปแล้ว พร้อมระบุว่า ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้นมาตรวจสอบในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยให้รายงานกลับมาภายใน 14 วัน และจากการประชุมร่วมกับอธิบดีกรมทางหลวง เกี่ยวกับการบริหารเดินทางของประชาชน และสั่งการเด็ดขาดให้งดการก่อสร้าง ในช่วงที่ประชาชนเดินทาง ส่วนรายละเอียดอื่น ๆ ต้องรอผลการสอบสวนของคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นและให้ว่าไปตามกฏหมาย

พร้อมกำชับ ทุกหน่วยงานให้เข้มงวดและดำเนินการให้รอบคอบ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่ครั้งแรก ทั้งนี้ ต้องขออภัยประชาชนทุกคนต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนเรื่องเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจากความประมาทหรือไม่ นาย ศักดิ์สยาม ขอให้รอผลตรวจสอบดีกว่า

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้ถามนาย ศักดิ์สยาม ว่าจะสร้างความมั่นใจให้ประชาชนได้อย่างไรหลังเกิดเหตุสะพานถนนพระราม 2 ถล่ม เนื่องจากถนนพระราม 2 มีการก่อสร้างค่อนข้างมาก รมว.คมนาคม กล่าวว่า ที่จริงมีมาตรการอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้อาจยังไม่อยู่ในกระบวนการ โดยหน่วยงานดำเนินการเป็นศูนย์ก่อสร้างสะพาน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่กรณีดังกล่าวอาจจะมาจากมนุษย์ ย้ำว่าให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นคนตรวจสอบข้อเท็จจริงดีกว่า ยังไม่พูดไปก่อนเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ และต้องสรุปให้ทันตามเวลา

ศรีสุวรรณ เดินทางยื่นคณะกรรมการเลือกตั้ง สอบ ส.ส.กินกล้วย หลังถูกแฉว่ารับเงินจากภายนอกเดือนละแสน อาจเป็นการครอบงำหรือชี้นำ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กเปิดเผยว่าวันนี้ตนได้เดินทางไปยัง กกต.ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อยื่นคำร้องต่อ กกต. เพื่อขอให้สอบสวน ส.ส. กินกล้วย หรือ ส.ส. ที่มีหลักฐานยืนยันว่ารับเงินหรือทรัพย์สินจากบุคคลอื่น โดยการโอนบัญชีธนาคารผ่านระบบ internet banking ของธนาคารนับแสนบาทต่อเดือน

ข้อความเฟซบุ๊กระบุว่า “สืบเนื่องจากการที่สื่อมวลชนได้เผยแพร่ข้อมูลจากกรณีไลน์หลุด ซึ่งมีเนื้อหาและภาพที่ระบุให้เห็นว่า มีรายชื่อ ส.ส.พรรคเล็ก เซ็นต์ชื่อรับเงินกันหลายคนจากบุคคลซึ่งไม่ปรากฎชื่อ และมีภาพหลักฐานสลิปการโอนเงินไปยังบุคคลปลายทาง ซึ่งเป็นชื่อของหัวหน้าพรรคการเมืองเล็กๆ

รวมทั้งหัวหน้ากลุ่มการเมืองด้วยโดยจ่ายกันเป็นรายเดือนๆละ 100,000 บาท ซึ่งเป็นเงินที่ได้มาโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า