‘ประยุทธ์’ กำชับทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง สถานการณ์น้ำท่วม ใกล้ชิด

‘ประยุทธ์’ กำชับทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง สถานการณ์น้ำท่วม ใกล้ชิด

โฆษกสำนักนายก เผย ประยุทธ์ กำชับทุกหน่วยงานเฝ้าระวัง สถานการณ์น้ำท่วม ใกล้ชิด ย้ำป้องกันและบรรเทาความเดือดร้อนประชาชนทันที นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมขังฉับพลันจากฝนตกหนักในพื้นที่หลายจังหวัดของประเทศ โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้สรุปสถานการณ์น้ำภาพรวมของประเทศ

ล่าสุด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก 

มีฝนลดลง แต่ยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก-ดินถล่ม ในช่วง 1-2 วันนี้ บริเวณ 9 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง น่าน อุตรดิตถ์ พิษณุโลก เพชรบูรณ์ และหนองคาย ปริมาณน้ำ แหล่งน้ำทุกขนาด 45,390 ล้าน ลบ.ม. (55%)

ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้รายงานสถานการณ์น้ำท่วมตั้งแต่วันที่ 20-24 ก.ค. เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 14 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่ ลำปาง อุตรดิตถ์ เพชรบูรณ์ พิษณุโลก พิจิตร ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา ระยอง ชลบุรี สมุทรปราการ นนทบุรี และยะลา รวม 20 อำเภอ 29 ตำบล 65 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 392 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย (ชลบุรี) ปัจจุบันภาพรวมสถานการณ์คลี่คลายแล้ว

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากสถานการณ์ฝนตกหนักทำให้น้ำท่วมในหลายพื้นที่ นายกรัฐมนตรีมีความห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมขัง โดยได้เน้นย้ำให้ ปภ. จังหวัด หน่วยทหาร ส่วนราชการ ป้องกันและบรรเทาผลกระทบให้กับประชาชนทันทีเมื่อเกิดภัยตามที่หน่วยงานต่าง ๆ ได้จัดทำแผนปฏิบัติการรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้คลี่คลายสถานการณ์ เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ท่วมขัง พร้อมทั้งให้จังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่ดูแลให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย และสำรวจและประเมินความเสียหายหลังน้ำลด เพื่อดำเนินการช่วยเหลือประชาชนตามระเบียบของทางราชการต่อไป

“นายกรัฐมนตรีกำชับว่าในช่วงฤดูฝนนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ให้ความสำคัญกับการเก็บขยะและวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำไหล เพื่อเตรียมพร้อมเร่งระบายน้ำฝนที่ตกลงมาให้น้ำไหลได้สะดวก พร้อมแนะให้ประชาชนที่อยู่บนเส้นทางน้ำหลาก เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตทางการเกษตร เก็บของไว้บนที่สูงเพื่อความปลอดภัย ให้ระวังอันตรายจากสัตว์และแมลงมีพิษ ระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้า ระวังการขับขี่พาหนะบริเวณน้ำไหลผ่านทาง

ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลข่าวสารประกาศจากทางราชการ และทางแอปพลิเคชันพยากรณ์อากาศทางโทรศัพท์มือถือ ที่ในปัจจุบันสามารถคาดการณ์สภาพอากาศได้อย่างรวดเร็ว มีความเที่ยงตรงและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ประชาชนสามารถเตรียมความพร้อมตนเองได้ในเบื้องต้นด้วย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลและภาคส่วนต่าง ๆ จะให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่องและเต็มที่” นายธนกร กล่าว

ศรีสุวรรณ มาแล้ว! เตรียมหอบหลักฐานฟ้อง ป.ป.ช. ปม ส.ส. กินกล้วย

ศรีสุวรรณ ลั่นพรุ่งนี้เตรียมหอบหลักฐานฟ้อง ป.ป.ช. กรณี ส.ส. กินกล้วย ชี้ผิด ม.128 ผิดจริยธรรมร้ายแรง โทษไม่เกิน 3 ปี พร้อมถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กถึงกรณีที่มีการเปิดเผยในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจถึงกรณี ส.ส.กินกล้วย ว่าในวันอังคาที่ 26 ก.ค. นี้ ตนจะบุก ป.ป.ช.เพื่อยื่นตรวจสอบในกรณีดังกล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวบนเฟซบุ๊กว่า “วันอังคารที่ 26 ก.ค.65 นี้ เวลา 10.00 น. จึงพร้อมที่จะเดินทางไปมอบให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. ณ สำนักงาน ป.ป.ช.นนทบุรี เพื่อขอให้ใช้อำนาจตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 มาตรา 234(1) ประกอบ พรป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 28(1) เพื่อไต่สวนและมีความเห็น กรณีปรากฎในสื่อว่ามีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร(ส.ส.)

ซึ่งเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองหรือหัวหน้ากลุ่มการเมืองจำนวนหนึ่ง รับโอนเงินหรือทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคํานวณเป็นเงินได้ประมาณ 100,000 บาทต่อเดือนหรือต่อครั้งจากผู้อื่น นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ที่ออกโดยอาศัยอํานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย ซึ่งมิได้เข้าข่ายในข้อยกเว้นเกี่ยวกับการรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใด โดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์และจํานวนที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กําหนด คือ ต้องไม่เกิน 3,000 บาทต่อครั้ง

ทั้งนี้ การกระทำดังกล่าวอาจถือได้ว่าฝ่าฝืนมาตรา 128 วรรคแรก แห่ง พรป.ป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ และอาจเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซี่งอาจถูกเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกิน 10 ปี ซึ่งเป็นอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช.ที่จะต้องดำเนินการสอบสวนเอาผิดตามครรลองของกฎหมายต่อไปจนถึงที่สุด นายศรีสุวรรณ กล่าวในที่สุด”

ขณะที่ ผลสำรวจ เรื่อง รัฐมนตรีคนไหนรอด เสียงโหวตนอกสภา กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศโดยดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ และการวิจัยเชิงคุณภาพจำนวน 2,175 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 22-23 ก.ค. ที่ผ่านมา

พบว่าส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 83.7 ทราบอยู่แล้วว่าจะอภิปรายอะไร ไม่มีอะไรใหม่ โจมตีกัน เสียดสีกันทางการเมืองและสถาบัน หวังทำลายความน่าเชื่อถือศรัทธาของคนไทย หาเสียงก่อนการเลือกตั้ง

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า